Accessibility Tools

ศาลจังหวัดสุรินทร์
Surin Provincial Court

เกี่ยวกับหน่วยงาน
image

ศาลจังหวัดสุรินทร์

ประวัติความเป็นมา/ข้อมูลทั่วไปของหน่วยงานimage

 

  
ประวัติศาลยุติธรรม

ศาลในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นมีอยู่มากมายหลายศาลกระจายกันอยู่ตามกระทรวงกรมต่างๆ และมีหน้าที่พิจารณาพิพากษาคดีต่างพระเนตรพระกรรณแทนพระมหากษัตริย์ต่อมาเมื่อบ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น มีการติดต่อกับชาวต่างชาติลัทธิชาวตะวันตกได้แผ่ขยายเข้ามาทำให้ระบบการศาลไทยมีการเปลี่ยนแปลงมิฉะนั้นอาจเป็นเหตุที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งกับชาติตะวันตกได้ จึงมีการปฏิรูประบบการศาลไทยขึ้นใน รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงมีบทบาทในการวางรากฐานระบบการศาลยุติธรรมโดยได้รวมศาลที่กระจัดกระจายอยู่ตามกระทรวงกรมต่างๆให้มารวมไว้ในที่แห่งเดียวกัน เพื่อให้การพิจารณาพิพากษาคดีดำเนินไปด้วยความรวดเร็วถูกต้องเหมาะสมไม่ทำให้ราษฎรเดือดร้อน

และในโอกาสที่กรุงเทพมหานครมีอายุครบ 100 ปี ซึ่งตรงกับวันที่ 21 เมษายน 2425 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินทางขบวนพยุหยาตรามาวางศิลาก่อพระฤกษ์อาคารศาลสถิตย์ยุติธรรม และทรงโปรดฯให้จารึกพระราชปรารภในการจัดตั้งศาลยุติธรรมไว้ในแผ่นเงิน ซึ่งเรียกว่า"หิรัญบัตร" มีความกว้าง 9.5 ซ.ม.ยาว 37.2 ซ.ม.จำนวน 4 แผ่น ฝังอยู่ใต้อาคารศาลสถิตย์ยุติธรรมบนแผ่นเงินจารึกด้วยอักษรไทยที่สวยงามและทรงคุณค่ามาก แสดงให้เห็นถึงพระบรมราโชบายในการปกครองแผ่นดินว่ามีพระราชประสงค์ให้ตั้งศาลขึ้นเพื่อทำหน้าที่วินิจฉัยชี้ขาดอรรถคดีทรงเล็งเห็นว่าบ้านเมืองจะอยู่ด้วยความสงบสุขร่มเย็นต้องอาศัยการศาลเป็นสำคัญ จึงทรงจัดระบบกฎหมายและระเบียบทางการศาลขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของชาติตะวันตก โดยมีกรมหลวงพิชิตปรีชากรและพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์เป็นกำลังสำคัญในการแก้ไขกฎหมายและปฏิรูประบบการศาลยุติธรรมให้เจริญรุ่งเรืองเป็นที่ยอมรับของนานาอารยประเทศ

ศาลจึงเป็นสถาบันที่ประสิทธิ์ประสาทความยุติธรรมให้แก่ประชาชนสืบมาตราบเท่าทุกวันนี้ และในโอกาสที่กรุงเทพมหานครครบรอบ 220 ปี ซึ่งตรงกับศาลยุติธรรมครบรอบ 120 ปี ในปี พ.ศ. 2545สำนักงานศาลยุติธรรมจึงร่วมกันจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ศาลไทยและหอจดหมายเหตุขึ้นเพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ที่มีต่อศาลยุติธรรมจึงถือเอาวันที่ 21 เมษายนของทุกปีเป็น "วันศาลยุติธรรม"

ทรงเล็งเห็นว่าบ้านเมืองจะอยู่ด้วยความสงบสุขร่มเย็นต้องอาศัยการศาลเป็นสำคัญ จึงทรงจัดระบบกฎหมายและระเบียบทางการศาลขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของชาติตะวันตก โดยมีกรมหลวงพิชิตปรีชากร และพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์เป็นกำลังสำคัญในการแก้ไขกฎหมายและปฏิรูประบบการศาลยุติธรรมให้เจริญรุ่งเรืองเป็นที่ยอมรับของนานาอารยประเทศ

                    

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2478 ได้มีการประกาศใช้พระธรรมนูญศาลยุติธรรมแบ่งแยกงานศาลยุติธรรมออกต่างหากจากกันเป็นสองฝ่าย คืองานธุรการและงานตุลาการ โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้รับผิดชอบงานธุรการส่วนงานตุลาการ คือการพิจารณาพิพากษา เป็นอำนาจของตุลาการโดยเฉพาะ นับแต่ตั้งกระทรวงยุติธรรมทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบงานธุรการของศาลยุติธรรมมาได้ 100 ปีเศษ จึงได้เกิดแนวความคิดที่จะแยกศาลยุติธรรมออกจากกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้พ้นจากข้อระแวงสงสัยว่าศาลยุติธรรมอาจถูกแทรกแซงจากฝ่ายบริหารและไม่มีอิสระในการพิจารณาพิพากษาคดี

จนกระทั่งได้มีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 แยกศาลยุติธรรมออกจากกระทรวงยุติธรรม บัญญัติให้ศาลยุติธรรมมีหน่วยงานธุรการของศาลยุติธรรมที่เป็นอิสระ ให้เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมเป็นผู้บังคับบัญชาขึ้นตรงต่อประธานศาลฎีกา และพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการศาลยุติธรรม พ.ศ.2543 มาตรา 5 บัญญัติให้มีสำนักงานศาลยุติธรรมเป็นส่วนราชการที่เป็นหน่วยงานอิสระ มีฐานะเป็นนิติบุคคล เมื่อกฎหมายดังกล่าวมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2543 จึงถือว่าศาลยุติธรรมแยกออกจากกระทรวงยุติธรรมนับแต่นั้นเป็นต้นมา

ประวัติศาลจังหวัดสุรินทร์

สถานที่ตั้ง   :   ศาลจังหวัดสุรินทร์หลังเก่าตั้งอยู่เลขที่ 588 ถนนหลักเมือง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์  ศาลจังหวัดสุรินทร์ ปรากฏหลักฐานในการจัดตั้งเป็นศาลยุติธรรม ครั้งแรกเมื่อประมาณกลางปี ร. ศ. 127 โดยประกาศตั้ง คณะข้าหลวงพิเศษจัดการศาลยุติธรรมในมณฑลอิสาณ  และคณะข้าหลวงเห็นควรให้ตั้งศาลขึ้นใน 3  จังหวัด คือ อุบลราชธานีเป็นศาลมณฑลร้อยเอ็ด และสุรินทร์เป็นศาลเมือง  จึงเป็นศาลชุดแรกที่ได้จัดตั้งขึ้นในหัวเมืองมณฑลอิสาณพร้อมกับศาลมณฑลอุบลราชธานีและเมืองร้อยเอ็ด  การสร้างที่ทำการศาลจังหวัดสุรินทร์แล้วเสร็จเมื่อประมาณปลายปี ร.ศ. 127  หรือปี ร.ศ. 128 เนื่องจากมีหลักฐานเอกสารกระทรวงยุติธรรม  เรื่องของการเปลี่ยนอัตราเงินเดือนส่วนหนึ่งสำหรับเจ้าหน้าที่ประจำศาลเมืองสุรินทร์ ซึ่งแสดงว่าคงมีที่ทำการ และเจ้าหน้าที่พอสมควรแล้ว อาคารศาลเมืองสุรินทร์เป็นอาคารไม้ มีมุขกลางยื่นออกมาเป็นห้องพิจารณา 1 ห้อง ส่วนปีกมุขอีกด้านหนึ่งเป็นห้องธุรการ ด้านหลังเป็นห้องพิจารณา และห้องธุรการ  เก็บเอกสารอาคารดังกล่าวยกพื้นสูงประมาณ 1 ศอกเศษตั้งอยู่บริเวณบ้านพักผู้พิพากษาจังหวัดสุรินทร์ถนนหลักเมืองในปัจจุบัน ต่อมาปีพุทธศักราช 2459 มีการเปลี่ยนแปลงคำเรียกจากเมืองสุรินทร์ เป็นจังหวัดสุรินทร์จึงมีชื่อใหม่่เป็นทางการว่าศาลจังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

          ต่อมาวันที่ 31 มีนาคม 2468 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชโองการโปรดเกล้าให้ยุบศาลมารวมอยู่ในศาลมณฑลนครราชสีมา ปีพุทธศักราช 2476 มีการจัดระเบียบบริหารงานส่วนภูมิภาคใหม่การปกครองแบบมณฑลถูกยกเลิก จังหวัดสุรินทร์จึงแยกมณฑลนครราชสีมาและศาลยุติธรรมก็คงแยกเป็นศาลจังหวัดโดยอิสระเรื่อยมาจนปัจจุบันครั้นถึงปี 2493 คดีความจังหวัดสุรินทร์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากอาคารที่ทำการคับแคบ และชำรุดทรุดโทรมมาก ประกอบกับจำนวนผู้พิพากษาเพิ่มขึ้นจึงมีการสร้างศาลขึ้นใหม่ในบริเวณใกล้กันถัดมาทางทิศตะวันออก ตรงกันข้ามกับศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ สร้างเป็นอาคารชั้นเดียวใต้ถุนสูงหลังคามุงกระเบื้อง มีห้องพิจารณา 4 ห้องชั้นล่างปล่อยโล่งไว้เป็นห้องขังและเก็บพัสดุ ต่อมาปี 2500  ได้จัดตั้งศาลแขวงสุรินทร์ จึงทำการต่อเติมอาคารดังกล่าวชั้นล่างเป็นห้องธุรการศาลจังหวัดสุรินทร์  และห้องพิจารณาได้แบ่งให้ศาลแขวง 1 ห้อง ปี 2508 มีการต่อเติมห้องผู้พิพากษาและห้องพิจารณา ขึ้นอีก 1 ห้อง ต่อมาตัวอาคารมีสภาพเก่าชำรุดทรุดโทรม ภายในตัวอาคารและห้องพิจารณาเล็ก และคับแคบไม่สะดวกแก่การพิจารณาพิพากษาอรรถคดีเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากกระทรวงยุติธรรมจึงได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลจังหวัดสุรินทร์และศาลแขวงสุรินทร์ขึ้นใหม่ โดยตั้งในพื้นที่ศาลหลังเดิม แต่ขยายเนื้อที่ออกไปทางด้านทิศตะวันออกจนจรดถนนจิตรบำรุง ได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ 2524 ประกอบพิธีเปิดทำการที่ทำการศาลจังหวัดสุรินทร์ และศาลแขวงสุรินทร์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน 2525 เป็นอาคารตึก 2 ชั้น หลังคาทรงไทยกว้าง 28.65 เมตร ยาว 90.20 เมตร ประกอบด้วยห้องพิจารณา 10 บัลลังก์ ห้องทำงานผู้พิพากษา ห้องทำงานเจ้าหน้าที่ธุรการ ห้องพักพนักงานอัยการและทนายความ ห้องเก็บสำนวน ห้องสมุด ห้องประชุม ห้องพัสดุ  ห้องควบคุมจำเลยสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสุรินทร์ ปลูกสร้างอยู่บนที่ดินราชพัสดุ เนื้อที่ ประมาณ 6 ไร่ 2 งาน และต่อมาได้ย้ายที่ทำการต่อมาศาลจังหวัดสุรินทร์แผนกคดีเยาวชนและครอบครัวได้ขอใช้พื้นที่ของศาลจังหวัดสุรินทร์และเปิดทำการเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2546  

          ปัจจุบันศาลจังหวัดสุรินทร์ได้ย้ายที่ทำการอาคารหลังใหม่เลขที่ 809  หมู่  20  ถนนเลี่ยงเมือง  ตำบลนอกเมือง  อำเภอเมือง  จังหวัดสุรินทร์  32000  เป็นอาคาร  4  ชั้น  7  บัลลังก์เมื่อวันที่ 3  มีนาคม  2556
                 ศาลจังหวัดสุรินทร์มีเขตอำนาจศาลในพื้นที่ของจังหวัดสุรินทร์ ในปัจจุบันมีทั้งหมด 11 อำเภอ คือ

                                               1.  อำเภอเมือง

                                            2.  อำเภอปราสาท

                                            3.  อำเภอสังขะ

                                            4.  อำเภอศีขรภูมิ

                                            5.  อำเภอจอมพระ

                                            6.  อำเภอบัวเชด 

                                            7.  อำเภอกาบเชิง

                                            8.  อำเภอลำดวน

                                            9.  อำเภอศรีณรงค์

                                          10. อำเภอพนมดงรัก

                                          11. อำเภอเขวาสินรินทร์

 

 

 ต่อมาเมื่อปีพุทธศักราช 2543 พระราชกฤษฎีกา กำหนดวันเปิดทำการศาลจังหวัดรัตนบุรีให้เปิดทำการศาลจังหวัดรัตนบุรี ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2543 เป็นต้นไป

 

( ประกาศราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 117 ตอนที่ 49 ก. ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2543)

 

 

                                           1. อำเภอรัตนบุรี

                                           2. อำเภอชุมพลบุรี

                                           3. อำเภอท่าตูม

                                           4. อำเภอสนม

                                           5. อำเภอสำโรงทาบ

                                           6. อำเภอโนนนารายณ์